D2C คืออะไร ทำไมแบรนด์ต่าง ๆ ถึงควรทำ

D2C,DTC หรือ Direct to Customer คือกลยุทธ์ E-commerce ที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอุปสรรคเลยก็ว่าได้มันสามารถช่วยให้เจ้าของแบรนด์ CPG ขายได้โดยตรงเลยกับลูกค้า พูดง่าย ๆ คือการขายสินค้าแบบปลีกผ่านช่องทางการขายของแบรนด์เอง โดยมีระบบรวมสินค้า บริการการจัดส่ง รวมไปถึงช่องทางการชำระเงินไว้ในช่องทางเดียว ซึ่งมันข้ามวิธีปกติไปคือการคุยกับตัวกลางเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปขายในตลาดต่อไปนั่นเอง

7 เหตุผลที่แบรนด์เริ่มทำ Direct to Contomer (DTC) แม้ D2C ที่มีแนวคิดไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่หากคิดจะทำแล้วจะต้องลงทุนเยอะอย่างแน่นอน แล้วคำถามคือทำไปทำไม? ทำแล้วจะได้อะไร? วันนี้เราได้รวบรวม 7 เหตุผลดี ๆ ที่คุณควรทำ DTC เราไปเริ่มกันดีกว่า

1. อัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้น

แบรนด์ต่าง ๆ สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรงได้มากกว่าเดิม การปิดการขายก็สามารถทำได้มากขึ้นถึงแม้เศรษฐกิจไม่ดี ร้านค้าปลีกขายได้น้อยลงก็ไม่ได้หมายความว่าแบรนด์จะขายได้น้อยลงตามไปด้วยถ้าหากแบรนด์นั้นทำ D2C

2. มาร์จิ้นที่เก็บได้เยอะขึ้น

ในกรณีที่เป็นแบรนด์ที่มีการแข่งขันสูง อาจจะต้องมีการพูดคุยเพิ่มเงินให้กับร้านค้าปลีก เพื่อที่จะทำให้สินค้าของเราวางในตำแหน่งที่คนสามารถเห็นได้มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้การันตีว่าคนเห็นเยอะแล้วเค้าจะซื้อเยอะขึ้น แต่ถ้ายอมกัดฟันลงทุนมีร้านของตัวเอง (และต้องเป็นมากกว่าช่องทางจำหน่ายสินค้าด้วย ก็จะเก็บมาร์จิ้นได้มากขึ้น

3. เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น

ถ้าเราขายของออนไลน์เราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น พื้นที่ที่จำกัดในการขาย จริง ๆ แล้ว ข้อนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่อะไรแต่ลองคิดดูว่าถ้าเรายังขายแต่หน้าร้านเราก็จะไม่ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเลยเพราะอนาคตทุกแบรนด์ก็จะมีการส่งสินค้าฟรีรวมไปถึงสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

4. ลดต้นทุนในระยะยาว

แบรนด์ที่มีหน้าเว็บไซต์ออนไลน์ สามารถลดต้นทุนการทำหน้าร้านได้ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ใคร ๆ เค้าก็ทำกันสำหรับหน้าร้านออนไลน์ แต่ถ้าทำ D2C แล้วเนี่ยจะต้องลงทุนมากกว่าการเป็นแค่เว็บฯขายของ ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตให้ลูกค้าซื้อของจากเว็บฯแทนที่จะเป็นเว็บหรือหน้าร้านของร้านค้าปลีก ลูกค้าสามารถสั่งซื้อของออนไลน์และให้มาส่งถึงบ้าน ต้นทุนพวกนี้แหละที่จะตามมาภายหลัง

5. พัฒนาฐานข้อมูลของลูกค้า

เมื่อการทำ D2C คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อของแบรนด์เรา แทนที่จะเข้าร้านค้าปลีกหรือเว็บไซต์ E-Commerce นั่นทำให้แบรนด์มีโอกาสเก็บข้อมูลของลูกค้าผ่านเครื่องมือ Digital Tool ถ้าหากเราไม่ทำ D2Cเป็นตัวกลาง แบรนด์ของเราก็จะไม่เข้าใจลูกค้าอาจจะเสียโอกาสในการปรับปรุงสินค้าและบริการและอาจจะทำให้ยอดขายในอานาคตน้อยลงไปด้วย

6. พัฒนาความสัมพันธ์ของลูกค้า

แน่นอนว่า Social Platform ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากลูกค้า- ค้าปลีก-แบรนด์ เป็นลูกค้ากับแบรนด์ แบรนด์ก็จะส่งมอบคุณค่าได้ดีขึ้น

7. อยากขายอะไรก็ขาย ไม่ถูกตัวกลางจำกัด

ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่เอาแต่ของขายดีขึ้นโชว์เพื่อทำยอดขาย ทั้งที่จริงแล้วแบรนด์ก็อาจจะไม่ได้อยากขายสินค้านั้นก็ได้ แต่พอทำ D2C แบรนด์ก็จะอยากขายอะไรก็ได้ ไม่ถูกร้านค้าปลีกจำกัดแล้ว

 

แบรนด์ D2C เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น เพราะทุกอย่างนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้บริโภครายนั้นๆ แต่จะให้อยู่แค่โลกออฟไลน์เหมือนเดิมก็คงไม่ใช่เรื่อง ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนแปลง และออกจากกรอบเดิม ๆ ของตัวเอง เพื่อสร้างกำไร และเติบโตในโลกธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป

ผลงานอื่นๆ

ไปทำความรู้จัก Email Marketing อีกหนึ่งเทรนด์ Digital Marketing ที่น่าจับตามองในปี 2021
ไปทำความรู้จัก Email Marketing อีกหนึ่งเทรนด์ Digital Marketing ที่น่าจับตามองในปี 2021
10 ข้อผิดพลาดของโฆษณาบน Instagram ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ (Ep.1)
10 ข้อผิดพลาดของโฆษณาบน Instagram ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ (Ep.1)
3 กลยุทธ์ Video Advertising ที่ไม่ควรมองข้าม
3 กลยุทธ์ Video Advertising ที่ไม่ควรมองข้าม