การที่ AI สามารถทำได้เกือบทุกอย่างจนทำให้เกิดความหวั่นใจขึ้นในหลายสาขางาน ว่า AI กำลังจะเข้ามาแย่งงานเราไปหรือไม่ ? วันนี้ Grasp Asia จะพาไปสำรวจถึงความเป็นไปได้ในอนาคต และหาคำตอบของคำถามนั้นกัน
หลายแหล่งข้อมูลมองว่า AI นั้น จะเข้ามาแทนที่งานที่มีการทำซ้ำ ๆ เช่นงานของการจัดการกับข้อมูล การป้อนข้อมูล หรืองานในอุตสาหกรรมตั้งแต่ health care ไปจนถึงภาคเกษตกรรม ที่มีแนวโน้มในการหยุดจ้างแรงงาน และหันมาใช้ AI แทน ส่วนกลุ่มอาชีพที่ AI จะเข้ามาแทนที่ได้น้อยที่สุดนั้น คือกลุ่มอาชีพที่มีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ความเป็นมนุษย์ หรือต้องพึ่งการตัดสินใจที่สำคัญต่อการทำงานนั้น ๆ และแน่นอนว่ากลุ่มอาชีพที่ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางก็เช่นกัน
นั่นหมายความว่าอาชีพจำพวกงานศิลป์หรืองานเขียน ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอาจมีส่วนถูกแทนที่น้อยกว่าอาชีพอื่น แม้ในตอนนี้จะมีประเด็นเรื่องของ AI Art เข้ามามีบทบาทในวงการศิลปะมากขึ้น แต่ลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของมือมนุษย์นั้น ยากที่จะถูกแทนที่ได้ อีกทั้งวิธีการเขียนเรื่องราวที่ต้องใช้อารมณ์และความเป็นมนุษย์ของนักเขียน ก็ยากที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติเช่นกัน
หรืออาชีพจำพวกหมอ และทนายความ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ และการตัดสินใจที่สำคัญ ก็เป็นอีกกลุ่มอาชีพที่ยากจะถูกแทนที่ด้วย AI อาชีพสื่อก็เป็นหนึ่งในงานที่มีส่วนน้อยที่จะถูกแทนที่ด้วย AI จากการที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกในการทำงาน รวมไปถึงการวางแผนต่าง ๆ
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ใช่ว่า AI จะสร้างอาชีพ หรือสร้างงานใหม่ให้กับเราไม่ได้ โดยมีหลายงานที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากการเข้ามาของ AI อย่างเช่นอาชีพการบำรุงรักษา พัฒนา หรือเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับ AI ในด้านของการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า AI นั้นสามารถที่จะเข้ามาแทนที่ในส่วนของงานที่ทำซ้ำ ๆ ได้ แต่ก็มีส่วนของงานที่ต้องใช้อารมณ์และความเชี่ยวชาญที่ยังเกินกว่าความสามารถในการประมวลผลของ AI ในปัจจุบัน ซึ่งเราสามารถที่จะปรับตัวให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ได้ เพราะมันมีแนวโน้มในการช่วยเพิ่มขีดจำกัดการทำงานของมนุษย์จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก : builtin, hubspot และ reeracoen