5 เหตุผลสำคัญที่ทำไม Social Listening จึงสำคัญกับแบรนด์

ก่อนที่เราจะไปดูว่าการทำ Social Listening ทำไมถึงสำคัญกับแบรนด์ เรามาทำความรู้จัก Social Listening กันก่อนดีกว่า Social Listening คือการฟังเสียงบนโลกออนไลน์ว่าผู้คนพูดถึงแบรนด์เราและเทรนด์เกี่ยวกับธุรกิจเราอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์แล้วสร้างกลยุทธ์ Digital Marketing ที่ตอบโจทย์พวกเขามากขึ้นในอานาคตต่อไปนั่งเองครับ

แล้ว Social Listening ทำอย่างไร?

หลักๆ ก็จะมี 3 ข้อง่ายๆ คือ

1.โดยทั่วไปเราต้องใช้โปรแกรมหรือเครื่องมือของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการเก็บข้อมูลบน social media เช่น Hootsuite, Sprout Social, Wise sight เป็นต้น

2.เครื่องมือเหล่านี้สามารถบอกเราได้ว่า มีผู้คนพูดถึงแบรนด์เราบนโซเชียลมิเดียอย่างไร, มีเทรนด์อะไรที่กำลังมาแรงรวมไปถึงการใช้#แฮชแท็กอะไร กำลังถูกใช้มากที่สุด เป็นต้น

3.ข้อสุดท้าย จริง ๆ การที่เราไล่อ่านคอมเมนต์ หรือติดตามเทรนด์ที่เป็นกระแสตามโซเชียลมิเดียก็ถือเป็นการทำ Social Listening เหมือนกันครับ แต่การใช้เครื่องมือจะช่วยประหยัดเวลา และได้ข้อมูลที่ครอบคลุมกว่าครับ

ทำ Social Listening แล้วแบรนด์จะได้อะไร? ????

1.การทำตลาดออนไลน์ของแบรนด์จะได้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น เช่น การทำคอนเทนต์ เราจะไม่ต้องมานั่งเดาอีกต่อไปว่าคนดูอยากอ่านเรื่องอะไร เพราะเรามีข้อมูลแล้วว่าพวกเขาสนใจอะไร

2.ภาพลักษณ์แบรนด์จะดีตลอดเวลาเพราะว่าเราจะรู้เลยว่ามีใครกล่าวถึงแบรนด์เราบ้าง ทำให้เราเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ที่มันแย่ให้ดีขึ้นได้อย่างทันท่วงที

3.เรียนรู้จากคู่แข่ง นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเราแล้ว เรายังสามารถวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคู่แข่งได้อีกด้วย เช่น คอนเทนต์ไหนของเขาที่ปัง ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของเราได้

4.เพิ่มโอกาสทางการตลาดเพราะหากผู้บริโภคมีการพูดถึงสินค้าประเภทใดบ่อย ๆ แต่แบรนด์เรายังไม่มี ก็ถือเป็นโอกาสดีที่เราควรทำ

5.วัดผลได้ เครื่องมือ Social Listening จะบอกเราเลยว่าแคมเปญที่เพิ่ง launch ไป เสียงตอบรับเป็นอย่างไร, พอจบแคมเปญแล้วเพิ่มยอด Follower ได้กี่คน, Feedback เกี่ยวกับแบรนด์เราเป็นอย่างไร เป็นต้น

ตัวอย่างการทำ Social Listening

- สมมติเป็นช่างแต่งหน้า แล้วเสนอโปรโมชั่นคลาสเรียนในราคาพิเศษ มีนักเรียนมาเข้าคลาสเต็มตลอด

- ถ้ามีเครื่องมือ Social Listening เราอาจพบว่ามีนักเรียกอีกมากมายที่คอมเมนต์บนโซเชียลว่าอยากเรียนแต่สมัครไม่ทัน

- เมื่อรู้เช่นนี้ ก็สามารถเปิดคลาสเพิ่มหรือสอนให้ถี่ขึ้นได้ เพื่อสร้างรายได้ที่สูงขึ้น

- หรือหากเราขายขนม ก็สามารถดูได้ว่าคู่แข่งมีวิธีนำเสนอสินค้าอย่างไรที่เรียก Engagement ได้สูงจากคนดูเราก็สามารถนำมาปรับใช้กับแบรนด์ของเรา

การฟังเสียงของผู้บริโภค ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะเราจะได้รู้ว่าผุ้บริโภคสมัยนี้เค้าต้องการอะไรจริง ๆ แล้วไม่ใช่เราอยากทำอะไรก้ทำไม่แคร์ผู้บริโภคแบรนด์ของเราก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเพราะไม่ยอมฟังเสียงของผู้บริโภคนั่นเอง