จริง ๆ แล้วกลยุทธ์ทางการตลาดมีมากมายอีกทั้งยังเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอีกด้วย แบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องปรับตัวอยู่เสมอ ซึ่งในบางกลยุทธ์อาจเป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องเบสิกง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่ามันใช้ได้กับการตลาดออนไลน์มาโดยตลอด เรามาดู 5 กลยุทธ์ สำหรับการเริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ที่ทำให้ลูกค้าติดหนึบ และช่วยสร้างการรับรู้ รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์กันดีกว่า เริ่มจาก
1. เข้าไปทำความรู้จักกับลูกค้าผ่านโปรไฟล์ของเขา
ในการปรับกลยุทธ์การค้าเพื่อเพื่อสร้างการรับรู้ และให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แบรนด์ควรทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่มันจะทำให้เราเข้าใจในความแตกต่างของลูกค้ามากขึ้น จะช่วยให้แบรนด์สามารถถ่ายทอด Content ที่ถูกต้อง ตรงจุด ตรงประเด็นกับลูกค้าทำให้ลูกค้าสะดุดตาทุกครั้งที่เห็น โดยต้องใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับคนที่เหมาะสมด้วย ไม่จำเป็นจะต้องใช้ข้อความเดียวกันทุกแพลตฟอร์มเสมอไป ใช้ถ้อยคำที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันไป พยายามใช้แฮชแท็กให้บ่อย และสร้างการมีส่วนร่วมของเนื้อหากับลูกค้าอยู่เสมอ รวมถึงอัปเดตโปรโมชั่น หรือข้อเสนอดี ๆ อย่างต่อเนื่อง
2. สร้างสรรค์หน้าร้านบนโซเชียลให้น่าสนใจอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นภาพโปรไฟล์ของแบรนด์ ภาพปกของแบรนด์ รวมถึงภาพ Artwork ที่ลงบนหน้าร้านออนไลน์ต้องสวยงาม และดูดี โดยต้องแสดงออกถึงความเป็นแบรนด์ด้วย เพราะหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิดจึงทำให้นักช็อปส่วนใหญ่ซื้อของออนไลน์ และทำความรู้จักกับแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น จำไว้ว่าแบรนด์มีเพียงโอกาสเดียวในการสร้างความประทับใจที่ดีคือครั้งแรกที่ลูกค้าผ่านเข้ามาเห็นเท่านั้น เพราะภาพลักษณ์ของโปรไฟล์โซเชียลมีเดียมีความสำคัญพอๆ กับผลิตภัณฑ์ที่ขาย แบรนด์จะสามารถดึงดูดลูกค้ากลับมาซ้ำได้ด้วยการทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การซื้อที่ดีด้วย
3. ช่วงเวลาการโพสต์ก็สำคัญ
ใครบอกว่าโพสต์ตอนไหนก็ได้ ไม่จริง ! การสร้างโพสต์เพื่อส่งเสริมการขายควรที่จะสอดคล้องกับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของลูกค้าด้วย แล้วก็จะต้องสร้างโพสต์ที่หลายหลายด้วย เช่น ภาพผลิตภัณฑ์ระยะใกล้ ระยะไกล วิดีโอการรีวิว หรือวิธีใช้สั้นๆ อินโฟกราฟิก ภาพอัลบัม
อีกทั้งแบรนด์ยังควรเพิ่มลิงก์เว็บไซต์(ถ้ามี)ไปยังโพสต์ด้วยเพราะจะทำให้
4. ตอบกลับลูกค้าด้วยใจและไวเท่าที่ทำได้
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์บนโซเชียลมีเดียได้ง่ายที่สุดคือการตอบสนองแบบทันที เพราะโซเชียลมีเดียทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อ หากลูกค้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า สอบถามการสั่งซื้อ หรือคำถามทั่วไป โดยแบรนด์ยังสามารถเข้าใจลูกค้าได้ด้วย
การโต้ตอบแบบนี้เป็นโอกาสในการแสดงความเป็นตัวเองของแบรนด์ และสร้างความไว้วางใจกับผู้ซื้อได้ด้วย
5. ใช้ Analytics เพื่อเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ของคุณ
การวิเคราะห์โซเชียลมีเดียจะช่วยให้เข้าใจว่าสิ่งใดใช้ได้ผลและไม่ได้ผลด้วยเครื่องมือทางการตลาดต่าง ๆ ในการเจาะลึกลงไปในการวิเคราะห์จะเผยให้เห็นโอกาสใหม่ๆ และประเมินว่าโพสต์ไหนที่กระตุ้นยอดขาย โดยแบรนด์จะสามารถปรับกลยุทธ์เพื่อทำให้โพสต์ในอนาคตของแบรนด์น่าสนใจยิ่งขึ้น สำหรับผู้มีโอกาสจะเป็นลูกค้าในอนาคต รวมถึงเข้าใจลูกค้าว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรได้ด้วย เพราะภาพจำ และCI ของแบรนด์ที่สอดคล้องกันจะช่วยปูทางให้ลูกค้าจดจำได้ดี
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกข้อที่คุณจะทำได้เอง เพราะคุณอาจเชี่ยวชาญไม่มากพอ ควรจะต้องมีคนมาช่วยดูแลให้แบรนด์แข็งแรงกว่าเดิม มองหามือขวาดี ๆ ด้าน Digital Marketing ต้อง Grasp Asia