อย่างแรกที่สำคัญในการทำธุรกิจ นั่นคือลูกค้า การเข้ามาของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนั้น จะเป็นการมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ง่าย และราบรื่นให้กับลูกค้าของธุรกิจนั้น ๆ ได้ ทั้งในการสื่อสารทางอีเมลล์ หน้าเว็บไซต์ หรือผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล
ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจ ที่จะส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าในด้านต่าง ๆ ทั้งการบริการที่ดีขึ้น คุณภาพที่ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น หรือการจัดส่งที่ดีขึ้น ทั้งนี้ การวิเคราะห์ปัญหาและข้อเสนอแนะจากลูกค้าในธุรกิจต่าง ๆ ก็จะสามารถชี้จุดเริ่มที่มั่นคงในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้กับองค์กรได้
ผลการสำรวจถึง 90% ของผู้บริหาร และผู้ใช้ มีแนวโน้มจะทำงานให้กับองค์กรที่มีการเปิดรับในเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากกว่า เพราะเหมือนได้ทำงานกับองค์กรหรือบริษัทที่พร้อมจะพัฒนาตลอดเวลา ไม่อยู่นิ่งเฉย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับแรงบันดาลใจของคนทำงาน
โดยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นเหมือนการให้เครื่องมือที่เหมาะสมในการทำงานกับสมาชิกในทีม สร้างให้สมาชิกทำงานมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวหน้าด้วยระบบดิจิทัล ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนั้น สามารถส่งผลถึงประสบการณ์ในการทำงานของพนักงานในองค์กรได้ รวมทั้งส่งผลถึงวัฒนธรรมดิจิทัลในองค์กรอีกด้วยเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะส่งผลถึงข้อมูลมากมายในองค์กร ที่มีการทำให้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยในการตัดสินใจโดยมีข้อมูลเป็นตัวตั้ง
อีกประโยชน์ที่สำคัญในเรื่องของข้อมูล คือการใช้ข้อมูลเชิงลึกเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ โดยจะเป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปลี่ยนเป็นข้อมูลเชิงลึกซึ่งนำไปใช้ในการสร้างรายได้ รวมไปถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถทำความเข้าใจลูกค้า และความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น โดยวิธีนี้จะทำให้สามารถวางกลยุทธ์โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดที่เรายกมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยชน์ที่สามารถเห็นได้ชัดในการทำ Digital Transformation ที่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกให้กับองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ หากต้องการปรึกษาในด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ดีต่อองค์กร สามารถทักมาสอบถามพวกเรา Grasp Asia กันได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : thalesgroup, ptc, virtru, lffintech