เขียนคอนเทนท์ SEO อย่างไรให้ติดอันดับ Google ?

 

SEO หรือ Search Engine Optimization เข้ามามีบทบาททางการตลาดออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า Google เป็นศูนย์กลางยอดนิยมที่เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทุกธุรกิจก็อยากที่จะติดอันดับบนหน้าแรกของ Google เพื่อสร้างการรับรู้ และยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถทำได้ เพราะ SEO จะขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเว็บไซต์ที่สำคัญคือ Keyword หรือเนื้อหาภายในที่ต้องปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไข ให้ใหม่และตามเทรนด์อยู่เสมอ ถ้าอยากให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Google มาดูเทคนิคการเขียน SEO กันดีกว่า

 

กลยุทธ์ SEO คือกระบวนการจัดระเบียบเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะปรากฏในผลการค้นหาบนหน้า Google การมีกลยุทธ์ SEO เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณกำลังสร้างเนื้อหาที่ผู้คนกำลังค้นหา เรียกได้ว่าสื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง

ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้บอกกลยุทย์เรื่อง อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับ GOOGLE ใช่ไหม ? กันไปแล้ว วันนี้เราจะมาลงลึกอย่างต่อเนื่องในการเขียนเนื้อในของบทความ SEO กันต่อเลย

กลยุทย์การทำ SEO

1.ใช้เวลาที่มีเพื่อหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเพื่อมองสิ่งที่จะสื่อสารได้อย่างตรงประเด็น

2.สร้างสรรค์บทความที่เป็นประโยชน์ และสอดคล้องกับ Keyword

3.กำหนดเนื้อหาก่อนเขียนบทความทุกครั้ง

4.ติดตามผลของบาทความทุกสิ้นเดือน เพื่อประเมินและปรับใช้งานในเดือนต่อไป

5.นำข้อมูลเชิงลึกมาใช้เขียน หรือ Search Insights รวมถึงข้อมูลที่มีการรับรอง หรือการันตีต่าง ๆ

 

10 เทคนิคการเขียน SEO ให้ติดอันดับ Google

1.ใช้ Headings ที่เป็นประโยชน์ ส่วนหัว Headings จะช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลเว็บของ Google เข้าใจบทความ และส่วนต่างๆภายในบทความ ต้องการเห็นภาพรวมของสิ่งที่บทความจะกล่าวถึงนั่นคือ Headings ที่1 จากนั้น Headings 2 , Headings 3 , Headings 4 ถึงจะแยกย่อยหัวข้อย่อยภายในบทความในเรื่องที่ต้องการนำเสนอ ดังนั้นส่วนหัวย่อยในบทความควรแสดงถึง Keyword หลัก เมื่อคุณใช้ Keyword ที่ถูกต้องหมายถึงคำที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้อยู่ ธุรกิจของก็คุณจะมีโอกาสสูงกว่าในการจัดอันดับบน Search Engine Results Page ของ Google

2.ควรใช้ภาษาที่สื่อสารกับมนุษย์ ดูเหมือนว่าหลักเกณฑ์ของ SEO จะเป็นเรื่องง่าย แต่อย่าลืมว่าคนที่ค้นหาบน Google ต้องการหาวิธี และคำตอบในเรื่องที่ต้องอยู่ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับคือ การเขียนบทความคุณภาพสูง จัดระเบียบหัวข้อต่าง ๆ ภายในบทความให้ชัดเจน กระชับ อ่านง่าย รวมถึงเน้นไว้ให้ดูเด่นกว่าส่วนอื่น ๆ คำนึงถึงลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาอ่าน แรงจูงใจ และความสนใจของลูกค้าคือ การเลือกหัวข้อที่ตรงกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ และจัดการกับปัญหาที่คนเหล่านั้นกำลังเผชิญอยู่เป็นสิ่งสำคัญ

3.ค้นหา Keyword หลักที่จะนำมาใช้ Google ประมวลผลคำค้นหามากกว่า 70,000 รายการต่อวินาที หากคุณต้องการตัดความยุ่งเหยิงของ Search Engine Results Page และอยู่เหนือคู่แข่ง จำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย Keyword และคำเฉพาะเจาะจงที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณกำลังค้นหา เริ่มต้นด้วยเครื่องมือวิจัย Keyword ง่าย ๆ อย่าง Google Trend เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่า Keyword ไหนเป็นที่นิยมในช่วงเวลาใดเวลานั้น หากกราฟการค้นหาลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปนั่นแปลว่า Keyword นั้นอาจไม่ใช่คำหลักที่เหมาะสมในการกำหนดเป้าหมายสำหรับการตลาดของคุณ ถ้าคิด Keyword ไม่ออก หรือค้นหาแล้วมีน้อยเกินไป ให้หาแรงบันดาลใจคู่แข่ง และใช้เครื่องมืออัจฉริยะตรวจสอบ Keyword ที่ตรงที่สุดอาจไม่ได้สอดคล้องกับกลยุทธ์เสมอไป เพราะ Keyword มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเมื่อเทรนด์เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงคำศัพท์ หรือสินค้า และบริการของคุณเมื่อเริ่มเติบโตขึ้น ต้องทำการวิจัยคำหลักเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่า Keyword ที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมายคืออะไร และไม่พลาดโอกาสสำคัญในการขึ้นอันดับบนหน้า Google 4.ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ official อื่น ๆ ในขณะที่สร้างบทความอย่ากลัวที่จะเชื่อมโยงกับโลกภายนอก เพราะการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ official ถือเป็นการนำเสนอเนื้อหาการอ่านเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่านบทความเพื่อเพิ่มพูนความรู้เพิ่มเติม และแสดงถึงเครื่องมือค้นหาที่คุณได้ทำการค้นคว้า ไม่มีอะไรเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบทความได้เท่ากับแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการวิจัยจากเว็บไซต์ที่มีอิทธิพล สถิติที่น่าสนใจช่วยให้บทความน่าเชื่อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บทความได้รับความไว้วางใจจากผู้อ่าน

5.เชื่อมโยงไปยังบทความอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ การลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ หรือบทความอื่นบนเว็บไซต์ของคุณ จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาสร้างแผนผังเว็บไซต์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ค้นพบเนื้อหาของคุณมากขึ้น และรู้จักคุณในฐานะแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หากเป็นแหล่งข้อมูลภายนอกให้ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติในการเขียนบทความ หลีกเลี่ยงการใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ หรือเชิงบังคับ แต่ให้ใช้ Keyword หลักที่สื่อความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจว่าจะพบอะไรเมื่อคลิกไปที่ลิงก์นั้น เช่น "ดาวน์โหลดคู่มือทำ SEO ที่ถูกวิธี" อย่าบังคับให้ลิงก์ไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าลดราคา

6.บีบอัดรูปภาพเพื่อความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บ Google จะให้รางวัลแก่หน้าเว็บที่เน้นความเร็วในการโหลดซึ่งมีผลต่อ CX ที่ดี หนึ่งในตัวการของความล่าช้าคือรูปภาพขนาดใหญ่ หากแต่ละภาพมีขนาดเกิน 100 KB อาจส่งผลกระทบต่อความเร็วของเว็บไซต์เป็นอย่างมาก

7.กลยุทย์การสร้างความเชื่อมโยงบทความ ความเชื่อมโยงมีความสำคัญต่อการจัดอันดับในการค้นหา ให้คิดซะว่าผลการค้นหาก็เหมือนกับการแข่งขันที่ผู้ชนะได้รับการโหวตมากที่สุด แต่ละหน้าของเว็บไซต์ควรมีความเชื่อมโยงซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลของเว็บไซต์อื่น ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้เนื้อหาของคุณน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาของ Google ในทางกลับกันสิ่งนี้จะทำให้การจัดอันดับขยับสูงขึ้น ดังนั้นจึงเป็นวิธีการดีในการเขียนบทความที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวต่าง ๆ หลายมิติภายในบทความ โดยสามารถใส่เนื้อหาที่มีมูลค่าสูงภายในบทความได้ เช่น ข้อมูลต้นฉบับ ความเป็นผู้นำทางความคิดเรื่องนั้น ๆ รวมถึงบทสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการดึงผู้คนกลับเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้

8. .ใส่ Keyword หลักที่ Descriptions ในตอนที่เราเริ่มตั้งค่าส่วนต่าง ๆ ของ SEO แล้ว จะมีช่องให่ใส่คำอธิบายเว็บไซต์ที่จะแสดงบนหน้าการค้นหา โดยจะมี 1 ถึง 3 ประโยคที่คุณจะเห็นใต้ชื่อของผลลัพธ์ในการค้นหา ซึ่งคำอธิบายนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ Google จะรวบรวมข้อมูลเพื่อกำหนดการจัดอันดับการค้นหา จำเป็นต้องใส่ Keyword หลักโดยใช้วิธีที่เราบอกไปในข้อก่อนหน้านี้

9.ทำบทความยาว ๆ เพื่อได้อันดับที่ดี เครื่องมือค้นหาอย่าง Google ชอบบทความเชิงลึกที่ยาว ยิ่งมีเนื้อหาในหน้าเว็บมากเท่าไหร่เครื่องมือค้นหาก็ยิ่งต้องหาว่าบทความของคุณเกี่ยวกับอะไร โดยจากการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่จะต้องมีคำในบทความที่ประมาณ 2,100 ถึง 2,400 คำ (เตือนไว้ก่อนว่า Google ก็มีความแปลงตลอดเวลาได้เหมือนกัน) ข้อเสียของบทความที่ยาวขึ้นคืออาจทำให้ผู้อ่านเบื่อหน่าย แต่ก็มีวิธีที่จะจัดการคือ การแบ่งเนื้อหาออกท่อน ๆ ให้ดูมีขนาดเล็ก เปลี่ยนประโยคที่ยืดยาวให้เป็น 2 ประโยคง่าย ๆ และคงย่อหน้าไว้ไม่เกิน 3 ประโยค ใส่สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยเพื่อดึงดูดความสนใจ เพราะมันจะอ่านง่ายบนโทรศัพท์มือถือ

10. เป้าหมายคือการทำให้เว็บไซต์ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเต็มที่แบบไม่เว่อร์เกินไป ใช้ Keyword ที่มีความเป็นธรรมชาติเข้าใจง่าย อย่าใช้คำยากเกินไป อย่าลืมว่าเป้าหมายของคุณคือ การแก้ปัญหาสำหรับผู้คนที่กำลังมองหาอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับสินค้า และบริการของคุณ หากมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือผู้อ่านบทความน้อย นั่นจะเป็นการส่งสัญญาณให้ Google ทราบว่าบทความของคุณอาจไม่ตรงตามความต้องการของคนเหล่านั้น

 

เคยได้ยินไหมว่า “การขึ้นอันดับไม่ยากเท่าการรักษาอันดับหรอก” จะเห็นว่าการเขียนบทความ SEO จะเน้นในเรื่องของ Keyword เป็นหลัก เพราะเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของการทำ SEO เลยก็ว่าได้ นี่เป็นเพียงเทคนิคเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการรู้อะไรที่มากกว่านี้ สามารถปรึกษาฟรีได้ที่เรา

 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/seo-strategy https://blog.hubspot.com/marketing/blogging-for-seo

ผลงานอื่นๆ

พาส่อง 10 อันดับเทรนด์การตลาดดิจิทัลสำหรับไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2023
พาส่อง 10 อันดับเทรนด์การตลาดดิจิทัลสำหรับไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2023
วิธีใช้สีเพื่อกำหนดรูปแบบ UX
วิธีใช้สีเพื่อกำหนดรูปแบบ UX
High-Quality Content เป็นกลยุทธ์การวางเนื้อหาที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ
High-Quality Content เป็นกลยุทธ์การวางเนื้อหาที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ