ค้นหากลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้ไปถึงเป้าหมาย

“กลุ่มเป้าหมาย” เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยเหลือเกินในวงการ Digital Marketing มองให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือหากคุณมีสินค้า หรือบริการที่กำลังขายอยู่ เราก็จะมีกลุ่มเป้าหมายในใจว่าอยากจะขายสินค้าให้กับใคร ซึ่งหลายคนก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจกลุ่มเป้าหมายดีแล้ว แต่ถ้าเข้าใจดีแล้วทำไมยอดขายถึงยังไม่ขยับขึ้นละ?

แต่สำหรับการทำการตลาดออนไลน์แล้วนั้น “กลุ่มเป้าหมาย” เป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ ถือเป็นจุดแรกเริ่มในการวางกลยุทย์การขาย โดยที่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายยังควรที่จะกำหนดให้เข้ากับแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ ต้องไม่แคบ หรือกว้างเกินไป เพราะไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายสำคัญของคุณได้อีกด้วย

 

จะเริ่มค้นหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร

1.ก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจ คุณต้องเข้าใจเองก่อน

ก่อนที่คุณจะเริ่มเจาะลึกลงไปว่า กลุ่มเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบของคุณคือใคร คุณต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดคืออะไร และทำไมลูกค้าถึงต้องสนใจคุณ

2.สร้างลูกค้าในอุดมคติของคุณ

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณกำลังนำเสนออะไร ? ใครจะได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น ? ไม่ว่าคุณจะขายให้กับใครในแต่ละราย คุณต้องมีภาพที่ชัดเจนของกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ ซึ่งคุณจะสามารถบรรลุสิ่งนั้นได้โดยการสร้างบุคลิกของผู้ซื้อขึ้นมา ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของหมู่บ้านที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ชายที่อายุมากกว่า 55 ปี มีรายได้ต่อปี 500,000 บาท ที่ต้องการซื้อบ้านหลังเกษียณ เพราะกลุ่มเป้าหมายนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังจ่ายให้กับคุณ แต่ถ้ามองอีกมุมนึงโดยการมองไปที่กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อย โดยมีรายได้ 300,000 บาทต่อปี แต่มีเงินออมที่สามารถใช้ซื้อบ้านได้ บุคคลเหล่านั้นก็คือเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่คุณสามารถสื่อสารไปให้ถึงได้ เพราะกลุ่มเป้าหมายไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่ เพศ อายุ การศึกษา ที่อยู่ เท่านั้น แต่ยังสามารถเป็น บุคลิกภาพ ความสนใจส่วนตัว งานอดิเรก ทัศนคติ ความคิดเห็น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และพฤติกรรม ด้วยได้

3.ค้นหาจากทุกซอกทุกมุมทุกแหล่งข้อมูลเท่าที่จะหาได้

“อย่าหยุดที่จะค้นหา” คุณเชื่อไหมว่ากลุ่มเป้าหมายสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวัน เมื่อคุณได้สร้างความเข้าใจว่าข้อเสนอหลักของคุณคืออะไร และคุณเสนอให้ใคร ก็ได้เวลาเริ่มขุดข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากที่สุดเกี่ยวกับธุรกิจ และผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อที่คุณต้องการเข้าถึงให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เหมาะสม

โดยเริ่มจำแนกจาก

- การรับรู้แบรนด์

ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ดีเพียงใด และเชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการไหม

- การมีส่วนร่วม

การใช้เนื้อหาเชิงกลยุทธ์ และสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดผู้คน และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมาย

- การสร้างชุมชน

กลยุทธ์ในการดึงดูดผู้ชมในการสนทนากับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ

- การสร้างลูกค้าเป้าหมาย

กระบวนการกระตุ้น และดึงดูดความสนใจในสินค้าหรือบริการเพื่อจุดประสงค์ในการต่อยอดการขาย

 

ยกตัวอย่างช่องทางโฆษณาหลักอย่าง Facebook และ Instagram

Facebook

เป็นช่องทางที่มีการมีส่วนร่วมในระดับสูง โดยสามารถใช้โฆษณาที่เสียค่าใช้จ่าย CPC [Cost Per Click (ต้นทุนต่อการคลิก)] ที่ต่ำ แต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างแบรนด์ และเพิ่มการเข้าชมได้ดี หากสามารถดึงมาที่ Messenger เครื่องมือสื่อสารที่ยอดเยี่ยมได้ ก็จะยิ่งทำให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น

Instagram

Instagram จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ และมีส่วนร่วมกับพวกเขาในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ โดยเป็นการเล่าเรื่องที่เหนือกว่าด้วยภาพคุณภาพสูง ช่องทางโฆษณานี้ยอดเยี่ยมมากสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวของแบรนด์ที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ การโพสต์ที่มีคุณภาพหนึ่งครั้งต่อวันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับ Instagram นี่อาจไม่ใช่วิธีทั้งหมดในการค้นหากลุ่มเป้าหมาย แต่ก็สามารถช่วยให้แบรนด์ที่กำลังเริ่มทำออนไลน์สามารถนำไปใช้ได้ ไม่มีกลยุทธ์ไหนที่ยากเกินไปหากคุณตั้งใจ ถ้าอยากรู้ซึ้งเพิ่มเติมมากกว่านี้ สามารถรับคำปรึกษาได้ฟรีที่เรา

 

 

ที่มา : foundationinc.co www.founderjar.com www.cgtmarketingllc.com

ผลงานอื่นๆ

Clubhouse ห้องสนทนาออนไลน์ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนพิเศษชั่วพริบตา
Clubhouse ห้องสนทนาออนไลน์ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนพิเศษชั่วพริบตา
5 กลยุทธ์ UX สุดแข็งแกร่ง
5 กลยุทธ์ UX สุดแข็งแกร่ง
เล่าเรื่องสร้างการตลาด มองลึกไปในเรื่อง Storytelling กับ Content Marketing
เล่าเรื่องสร้างการตลาด มองลึกไปในเรื่อง Storytelling กับ Content Marketing